ประวัติจังหวัดอุบลราชธาน?/span>
ตำนานเมืองอุบล
ได้กล่าวกันถึงการสืบเชื้อสายจากเจ้านครเชียงรุ้?แสนหวีฟ้?/span> ของเจ้าปางคำ พระบิด?ของเจ้าพระตา เจ้าพระว?โดยกล่าวถึ?ปี ??2228 เกิดวิกฤตทางการเมือง
ในนครเชียงรุ้ง เนื่องจา?จีนฮ่อหัวขาว หรือฮ่อธงขาว ยกกำลั?/span> เข้าปล้นเมืองเชียงรุ้ง เจ้านครเชียงรุ้ง ได้แก่ เจ้าอินทกุมา?เจ้านางจันทกุมาร?/span> เจ้าปางค?อพยพไพร่พล จากเมืองเชียงรุ้?มาขอพึ่งพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกรา?/span> แห่งเวียงจันทน?ซึ่งเป็น
พระประยูรญาต?ทางฝ่ายมารดา พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกรา?/span> ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โปรดให้นำไพร่พลไปตั้งที่
เมืองหนองบัวลุ่มภู เมือ?/span> หนองบัวลุ่มภ?จึงอยู่ในฐาน?พิเศ?คือไม่ต้อง ส่งส่ว?บรรณาการ มีสิทธิสะส?ไพร่พล อย่างเสรีเป็นอิสระ ไม่ขึ้นกับ เวียงจันทน?มีชื่อว่?/span> "นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบา?quot; สันนิษฐานว่า น่าจะมีฐาน?เป็นเมืองลูกหลวง ต่อม?/span> พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกรา?ให?เจ้าอินทกุมา?เสกสมร?กั?พระราชธิดาพระองค์หนึ่ง ได้โอร?คื?เจ้าคำ หรือเจ้าองค์นก ให้เจ้?นางจันทกุมาร?เสกสมรสกับ
พระอุปยุวราช ได้โอร?คื?เจ้ากิงกีศรา?แล?เจ้าอินทโส?ซึ่งต่อม?คือบรรพบุรุษขอ?/span> เจ้านายหลวงพระบา?ส่วนเจ้าปางค?ให้เสกสมรสกั?พระราชนัดด?ได้โอร?คื?เจ้าพระต?/span> เจ้าพระว?สันนิษฐานว่า
ทั้งสองท่านเป็นเสนาบดี กรุงศรีสัตนาคนหุ?ตั้งแต่สมั?/span> พระไชยเชษฐาธิราชที?2 (ชัยวงค์เว้) พระอัยกาขอ?พระเจ้?สิริบุ?าร การดำรงฐานะเป็?เจ้านายเชื้อสายพระราชวงศ?ของพระเจ้าวอ พระเจ้าต?/span> เห็นได้จากหลักฐา?หลายประการ อาทิ การที่หนองบั?ลุ่มภู เป็นเมือ?ให? มีไพร่พลมา?ดังปรากฎเมืองหน้าด่านทั้งสี่ คื?เมืองภูเขียว ภูเวีย?เมืองผ้าขา?/span> เมืองพันนา แล?การที่
เมืองอุบ?ดำรง ฐานะเป็น เจ้าประเทศราชเมื่อเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภา?ของพระมหากษัตริย?ไท?/span> ต่างจากเมืองเขมร ป่าดงอื่นๆ
และเมื่อกำเนิด ??? นามสกุ?โปรด พระราชทานนามสกุล "?อุบล" อันหมายถึง เชื้อสายเจ้านา?อุบลราชธาน?แต่โบราณ
เมื่อเจ้านายอุบล ถึงแก่อสัญกรรม ก็มี ประเพณ?การทำศพแบบนกหัสดีลิงค์
อันสืบมาจากนครเชียงรุ้?/span> ในเชียงใหม?ก็ปราก?าร
ทำศพแบบนกหัสดีลิงค์เช่นเดียวกั?/span>
การตั้งเมืองอุบลราชธาน?/span>
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหารา?บ้านเมือ?/span> ค่อน?างสงบก็ทรงมี นโยบายที่จ?จัดตั้งเมือง
ให้มากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการรวบรวมไพร่พลให้เป็นปึกแผ่?เพื่อความสงบสุ?สมเด็จ?/span> กรมพระยาดำรง
ราชานุภาพได้ทรงกล่าวถึ?เรื่องนี้ว่า "?/span>รัชกาล ที?1 ถึงรัชการที่ 3 ให้เจ้าเมืองร้าง
เที่ยวเกลี้ยกล่อมห?ผู้คนมาเป็นพลเมือง โด?ไม่ต้องใช้อำนา?/span> อาจทำได้ด้วยยินดีด้วยกัน ทุกฝ่ายก็สำเร็?ประโยชน์ ถึงความมุ่งหมา?/span> เจ้าเมืองไหนเกลี้ยกล่อมคนมาได้มา?ก็ได้ทรัพย์เศษส่วน และได้ผู้คนสำหรับอาศัยใช้สอยมากขึ้?ก็เต็มใจขวนขวา?ตั้งบ้านเมือ?/span> ฝ่ายราษฎรที่ไปเที่ยวหลบลี้ เดือดร้อนลำบากมากอยู?เมื่อรู้ว่?/span> บ้านเมืองเรียบร้อยอย่างเดิ?ก็ยินดีที่จะกลับมา โดยมาก
" คงจะเป็น เพื่อสนองตอบ พระบรมราโชบา?ในการตั้งเมืองดังกล่าวมาแล้ว และเพื่อความอุดมสมบูรณ์ในการประกอบอาชีพของ
ไพร่บ้านพลเมือ?"?ในปี ??2329 ( จุลศักรา?1148 ปีมะเมีย นพศก)
พระประทุมจึงย้ายครอบครัวไพร่พลมาตั้งอยู่ ?/span> ตำบลแจระแม คือตำบ?ที่ตั้?อยู่ทา?ทิศเหนือ เมืองอุบลปัจจุบั?/span>?."
สถาปนาเมืองอุบลราชธานี
??2335 พระประทุมสุรรา?(ท้าวคำผง) ได้พาพรรคพวกไพร่พลตั้งอยู่ที?ตำบลห้วยแจระแม (บริเวณบ้าน ท่าบ่อ ในปัจจุบัน) ด้วยความปกติสุขเป็นเวลานานหลายปี จนกระทั่???2334 (จุลศักรา?1153 ตรีศ? อ้ายเชียงแก้?ซึ่งตั้งบ้านอยู่ที่ตำบลเขาโองแขว?เมืองโขง คิดการกบ?พาพรรคพว?/span> ไพร่พลเข้ายึดนครจำปาศักดิ์ พระเจ้าองค์หลว?(ไชยกุมาร) เจ้าเมืองซึ่งกำลังป่วยอยู่ก็มี อาการป่วยทรุดหนั?และถึงแก่พิราลัย อ้ายเชียงแก้วจึงยึดเมือง นครจำปาศักดิ์ไว้ได?ความทราบ ถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหารา?จึงโปรดเกล้า?ให้เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) เมื่อครั้งเป็น
พระพรห?ยกกระบัต?/span> ยกกองทัพเมืองนครราชสีมามาปราบกบฎอ้ายเชียงแก้?/span> อย่างไรก็ดีขณะที่กองทัพนครราชสีมายกมาไม่ถึงนั้?พระประทุมสุรรา?(ท้าวคำผง) และท้าวฝ่ายหน้?ผู้น้อ?ที่ตั้งอยู่บ้านสิงห์ท่?(เมืองยโสธร) ได้ยกกำลังไปรบอ้ายเชียงแก้วก่อ?ทั้งสองฝ่า?ได้สู้รบกันที่บริเวณ แก่งตะนะ (อยู่ในท้องที?อำเภอโขงเจีย?
กองกำลัง อ้ายเชียงแก้วแตกพ่ายไป อ้ายเชียงแก้วถูกจับได้
และถูกประหารชีวิ?เมื่อกองทั?/span> เมืองนครราชสีมายกมาถึงเมืองจำปาศักดิ?เหตุการณ์ก็สงบเรียบร้อยแล้?/span> จึงพากันยกกองทัพ ไปตีพวกข่า
"ชาติกระเสงสวาง จะรายระแดร?quot; ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกแม่น้ำโข?จับพวก?าเป็นเชล?ได้เป็นจำนวนมา?จากควา?/span> ดีความชอบในการปราบปรามกบ?้ายเชียงแก้วนี้เอง
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้?/span> จุฬาโลกมหารา?จึงได้
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให?ท้าวฝ่ายหน้าเป็น พระวิไชยราชขัตติยวงศ?ครองนครจำปาศักดิ?และโปรดเกล้า?แต่งตั้งให?พระประทุ?/span> สุรราช เป็นพระประทุ?วรราชสุริยวงศ์ ครอง เมืองอุบลราชธานี พร้อมกับยกฐานะบ้านห้วยแจระแมขึ้นเป็นเมืองอุบลราชธานี เมื่อวันจันทร์
แร?13 ค่?/span> เดือ?8 จุลศักรา?1154 (??2335) ดังปรากฎ ในพระสุพรรณบัตรตั้?/span> เจ้าประเทศราชในรัชกา?พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ว่?/span> "?ด้วยพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้?ผู้ผ่า?พิภพกรุงเท?มหานครศรีอยุธย?/span> มีพระราชโองการโปรดเกล้?โปรดกระหม่อม ตั้งให?พระประทุ?เป็นพระประทุมวรราช สุริยวงศ?ครองเมือ?อุบลราชธาน?ศรีวนาไลยประเทศราช เศกให้ ?วั?2 แร?13 ค่?/span> เดือ?8 จุลศักรา?1154 ปีจัตวาศ?.."
การตั้งเมืองต่าง?/span> ในอุบลราชธาน?/span>
ภายหลังการก่อตั้งเมืองอุบลขึ้นแล้ว ได้มีการตั้งเมืองสำคัญในเขตปกครอ?ของจังหวัด อุบลราชธาน?ปัจจุบัน ขึ้นอีกหลายเมืองดังนี้
1. เมืองยโสธรเดิมทีเดียวมีฐานะเป็นหมู่บ้า?/span> ชื่อบ้านสิงท่า ท้าวฝ่ายหน้า (บุตรพระต?เคยอพย?ครอบครัว และไพร่พ?/span> มาตั้งหลักแหล่?อยู่แล้ว ครั้งหนึ่ง ใน ราวป???2329 แต่เมื่อคราวปราบกบ?/span> อ้ายเชียงแก้?เมื่อป?2334 ท้าวฝ่ายหน้าก็ได้รับ พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็?/span> พระวิไชยราชสุริยวงศ์ ขัตติยวงศา
ครองเมืองนครจำปาศักดิ์ต่อจากพระเจ้าองค์หลว?/span> (ไชยกุมาร) ที่ถึงแก่กรรมล?ต่อมาในป???2357ราชวงศ?(สิ? เมืองโขง ซึ่งเป็น?ติกั?พระวิไชยราชสุริยวงศ์ขัตติยวงศา
เจ้าเมืองนครจำปาศักดิ์ไม่พอใ?/span> ที่จะทำราชการกับ
เจ้าเมืองนครจำปาศักด?จึงพาครอบครัวไพร่พลอพย?ไปตั้งอยู่ที?/span> บ้านสิงท่า พร้อมมีหนังสือกราบบังคมทูลขอยกขึ้นเป็นเมือ?/span> พระบาทสมเด้จพระพุทธเลิศหล้านภาลั?จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ตั้งบ้านสิงท่า เป็นเมืองยโสธร เมื่อป???2357 พร้อมกับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให?ราชวงศ?(สิ? เมืองโขง เป็นพร?สุนทรราชวงษาเจ้าเมืองยโสธร พร้อมโปรดเกล้า?แต่งตั้งให้ท้าวสีช?/span> (หรือ สีทา)
เป็นอุปฮาดท้าวบุตรเป็นราชบุต?ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ โดยให้ผูกส่ว?/span> น้ำรัก 2 เลกต่อ เบี้?ป่าน 2 เล?ต่อขอด
2. เมืองเขมราฐในป???2357 คือปีเดียวกับที่โปรดเกล้าฯ ตั้งเมืองยโสธรนั่นเอ?อุปฮาดก่?อุปฮาดเมือ?อุบลราชธาน?ไม่พอใจที่จะทำ ราชการกั?/span> พระพรหมวรราชสุริยวงศ?(ท้าวทิดพรห? เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนที?2 (??2338-2388) จึงอพย?ครอบครัว ไพร่พล ไปตั้งอยู่ที?บ้านโคกกงพะเนียง พร้อมกับขอพระบรมราชานุ?ตตั้งขึ้นเป็นเมือง พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านโคกกง
พะเนีย?/span> เป็นเมือ?"เขมราษ?์ธาน?quot; ขึ้นกรุงเทพฯ
พร้องกันนั้นก็ โปรดเกล้าฯ ตั้งอุปฮาดก่?/span> เป็นพระเทพวงศ์ศาเจ้าเมือ?โดยกำหนดให?ผูกส่วยน้ำรั?2 เลกต่อเบี้?ป่าน 2 ขอด่?/span> 10 บา?เมือ?"เขมราฐษร?ธานี" ปัจจุบันคืออำเภอ เขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี
3. เมืองโขงเจียมตั้งขึ้นในป???2364 ทั้งนี้เพราะขุนนักราชนาอินทร?ผู้รักษาตำบลโขงเจียม มีความผิ?เจ้าเมืองนคร จำปาศักดิ์ (โย? จึงจับมาลงโท?แล้วขอพระบรมราชานุ??ตั้งท้าวมหาอินทร?/span> บุตรขุนนักอิ? ทวงษ์เป็นพระกำแหงสงครา?ยกบ้านนาค่อขึ้นเป็นเมืองโขงเจียม ขึ้นตรงต่อเมืองนคร จำปาศักดิ์
แต่พอถึง รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หั?/span> คงด้วยเหตุผลทางการเมืองบางประการ จึงโปร?เกล้าฯ ให้เมือง
โขงเจียมขึ้นตรงต่อ เมืองเขมราฐเมื่อ ??2371
4. เมืองเสนางคนิคมโปรดเกล้า?ตั้งขึ้นเมื่???2388 ทั้งนี้เพราะพระพรหมวรราชสุริยวงศ?(ท้าวทิดพรห? เจ้าเมือ?อุบลราชธานีคนที่ 2 ได้น?พระศรีสุรา?เมืองตะโปน
ท้าวอุปฮาด เมืองชุมพร ท้าวฝ่าย เมืองผาปัง ท้าวมหาวงศ?เมืองคาง
พาครอบครัวไพร่พล อพยพมาจา?ฝั่งซ้าย แม่น้ำโข?มาพึ่ง พระบรมโพธิ สมภา?และตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านช่องนาง แขวงเมือ?อุบลราชธาน?/span> เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หั?ที่กรุงเทพ?จึงโปรดเกล้า?/span> ตั้งบ้านช่องนางเป็นเมืองเสนางคนิคม
ตั้งพระศรีสุราชเป็นพระศรีสินธุสงคราม เจ้าเมือ?ให้ท้าวฝ่ายเมืองผาปั?เป็น อัครฮา?ท้าวมหาวงส์เมืองคา?เป็น อัครวงศ์รักษาเมืองเสนางคนิคม ขึ้นตรงต่อเมืองอุบลราชธานี แต่เมื่อตั้งเมืองจริงนั้?เจ้าเมืองกลับพ?พรรคพวกไพร่พ?/span> ไปตั้งเมืองที่บ้านห้วยปลาแดก หาได้ตั้งที่บ้านช่องนางดังที่โปรดเกล้า?/span> ไม?/span>
5. เมืองเดชอุดมในปีเดียวกับตั้งเมืองเสนางคนิคมนี้เอ?/span> หลวงธิเบศร?หลวงมหาดไท?หลวงอภัย กรมการเมืองศรีสะเก?ไม่พอใจที่จะทำ
ราชการ กับพระยาวิเศษภักดีเจ้าเมืองศรีสะเก?/span> จึงอพยพครอบครัวไพร่พลไปตั้งอยู่บ้านน้ำโดมใหญ?ซึ่งตั้งอยู่พรมแดนระหว่า?/span> เมืองนครจำปาศักดิ์ อุบลราชธาน?ขุขันธ?ศรีสะเกษ ติดต่อกั?มีไพร่พลทั้งหม?2,150 คน และมีเลกฉกรรจ์ 606 คน
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หั?จึงโปรดเก้าฯ ให้ยกบ้านน้ำโดมใหญ่ขึ้นเป็นเมืองเดชอุด?เมื่?วันเสาร์ แร?5 ค่?เดือ?8 ?? 2388 (??1207) พร้อมกันนั้นก็โปรดเกล้าฯ ตั้งหลวงธิเบศร์เป็นพระศรีสุร?/span> ให้หลวงมหาดไทยเป็นหลวงปลัด ให้หลวงอภัยเป็นหลวงยกระบัต?รักษาเมือง เดชอุดมขึ้นกรุงเทพ?/span>
6. เมืองคำเขื่อนแก้วตั้งขึ้นเมื่อ ??2388
ทั้งนี้เพราะพระสีหนา?พระไชยเชษฐ?นายครัวเมืองตะโป?ได้พาครอบครั?/span> ไพร่พลมาตั้งอยู่ ที่บ้า?คำเมืองแก้?แขวงเมืองเขมรา?พระเทพวงศา
(บุ?ันทร? เมืองเขมรา?จึงกราบบังคมทูลเพื่อขอตั้งเป็นเมือ?พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า เจ้าอยู่หั?จึงโปรดเกล้า?ให้ยกฐานะบ้านเมืองแก้ว ขึ้นเป็นเมืองคำเขื่อนแก้?/span> ขึ้นกับเขมรา?/span>
7. เมืองบัว(ปัจจุบันคื?อำเภอบุณฑริก) ตั้งขึ้นเมื่?/span> ??2390 ทั้งนี้เพราะเจ้านครจำปาศักดิ?(นา? เห็นว่าการที่โปรดเกล้า?/span> ให้ตั้งเมือง เดชอุด?ขึ้นเมื่???2388 นั้น
เป็นผลกระทบกระเทือนต่อเขตแดน เมืองนครจำปาศักดิ์มา?เพราะจะเป็นผลให้เขตแดน ทางทิศตะวันต?ลดน้อยถอยล?/span> จึงนำเรื่องขึ้?กราบบังคมทูล ขอยกบ้านดงกระช?(หรือบ้านไร?
ขึ้นเป็นเมือ?/span> เพื่อกันเขตแดนเมืองเดชอุดมไว?จึงโปรดเกล้า?ให้ยกบ้านดงกระชู ขึ้นเป็นเมืองบัว ขึ้นตร?ต่อเมืองนครจำปาศักดิ?และให้ท้าวโสเป็นพระอภัยธิเบศร์วิเศษสงครามเจ้าเมือง
8. เมืองอำนาจเจริ?ั้งขึ้นเมื่อ ??2401
พระเทพวงศาเจ้าเมืองเขมราฐมีใบบอกกราบบังคมทูลขอตั้งบ้านค้อใหญ่ขึ้?เป็นเมือ?/span> จึงโปรดเกล้า?ให้ตั้งบ้า?ค้อใหญ่ขึ้นเป็นเมืองอำนาจเจริญ ขึ้นตรงต่อเมืองเขมรา?/span> ผูกส่วยเงินแทนผลเร่วปีละ 12 ชั่ง 18 ตำลึ?ตั้งท้าว จันทบร?เป็นพระอมร อำนาจเจ้าเมือง ตั้งท้าวบุตตะเป็นอุปฮา?ท้าวสิงหราชเป็นราชวงศ์
ท้าวสุริโยเป็น ราชบุต?/span>
9. เมืองพิบูลมังสาหารตั้งขึ้นเมื่???2406
พระพรหมราชวงศา
(กุทอ? เจ้าเมืองอุบลราชธานี คนที?3 (?? 2388-2409) ได้มีใบบอก กราบเรีย?เจ้าพระย?กำแหงสงครา?เจ้าเมืองนครราชสีม?เพื่อนำควา?/span> กราบบังคมทูลขอตั้งบ้านกว้างลำชะโ?เป็นเมือ?และขอตั้งท้าวจุมมณ?เป็น เจ้าเมือ?/span> พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้?เจ้าอยู่หั?จึงโปรดเกล้า?ให้ตั้งบ้านกว้างลำชะโด เป็นเมือ?"พิบูลย์มังสาหา?quot; เมื่อวันอาทิตย?แร?11 ค่?เดือ?12 แล?โปรดเกล้าฯ ตั้งท้าวธรรมกิตติก?(จุมมณี)
เป็นพระบำรุง- ราษฎร์เจ้าเมือ?ให้ท้าวโพธ?สารราช (เสือ) เป็นอุปฮาด ท้าวสีฐา?(สา? เป็นราชวงศ?ท้าวขัตติยะเป็นราชบุตร โดยกำหนดให?/span> ขึ้นตรงต่อเมืองอุบลราชธานี
10. เมืองตระการพืชผลใน ??2406 พร้อมๆ กับการขอตั้งเมือ?/span> "พิบูลมังสาหา?quot; พระพรหมราชวงศา เจ้าเมืองอุบลราชธานี ก็ขอตั้ง
บ้านสะพื?/span> ขึ้นเป็นเมืองด้ว?และขอให้ท้าวสุริยวงศ?(อ้?
เป็นเจ้าเมือ?จึงโปรดเกล้า?/span> ตั้งบ้านสะพือขึ้?เป็นเมืองตระการพืชผล ให้ท้าวสุริยวงศ์ (อ้? เป็นพระอมร ดลใจเจ้าเมือ?เมื่อวันอาทิตย์แรม 10 ค่?เดือ?12 โดยกำหนดให?/span> ขึ้นตรงต่อเมืองอุบลราชธานี
11. เมืองมหาชนะชัย พร้อมๆ กับขอตั้งเมืองพิบูลย์มังสาหา?/span> และเมืองตระการพืชผลนั้นเอง ก็ได?ขอตั้งบ้านเวินไช?ขึ้นเป็นเมืองด้ว?/span> ซึ่งก็ได้รับ พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้นเป็นเมืองมหาชนะไช?/span> ตั้งให้ท้าวคำพูนเป็นพระเรืองไชยชนะ เจ้าเมือ?ท้าวโพธิรา?(ผา)
เป็นอุปฮาด ท้าววรกิตติก?(ไช? เป็นราชวงศ?ท้าวอุเท?(หอ?
เป็นราชบุต?/span> ขึ้นตรงต่อเมืองอุบลราชธานี
เจ้าเมืองอุบลราชธานีในอดีต
ที่พระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งมีจำนวนทั้งสิ้?4 ท่านดังนี้
1. พระประทุมวรราชสุริยวงศ?(??2335-2338) นามเดิ?/span> ท้าวคำผง บุตรเจ้าพระต?เป็นบุคคลสำคัญ ในการสร้างบ้าน แปงเมืองอุบล
โปรดให้สร้างคู ประตูเมือง หอโฮงเจ้านายต่าง?สร้างวัดหลวง
และเสนาสนะ อาทิ สิ?อาฮา?หอระฆั?/span> พระพุทธรูป สิ่งก่อสร้าง
ล้วนเลียนแบบ ศิลปแบบหลวงพระบา?/span>
2. พระพรหมวรราชสุริยวงศ?(??2338-2388) นามเดิ?พรหม น้องชายพระประทุม (คำผง) เป็นบุตรชา?คนเล็กขอ?เจ้าพระต?เป็นผู้ก่อสร้างวัด ป่าหลว?(วัดป่าหลวงมณีโชต?
นำไพร่พลผู้ศรัทธาสร้างพระพุทธรูป องค์ให?ก่ออิฐถือปูน เป็นที?เคารพสักการะของชาวอุบล?มีชื่อว่?พระเจ้าใหญ?/span> อินทร์แปลง ปัจจุบัน เป็นพระประธา?ในวิหารวัดมหาวนารา?/span>
3. พระพรหมราชวงศา (??2388-2409) นามเดิ?กุทอ?/span> สุวรรณกู?บุตรพระพรห?(ทิดพรห? ในสมัยของท่า?ธรรมยุติกนิกาย
แพร่หลายในเมือ?/span> อุบล?เพื่อสนองพระราชประสงค์ขอ?พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้สร้างวัดสุปั?าราม
และบรรดา อุปฮาด ราชวงศ?ราชบุต?ร่วมกั?/span> สร้างวัดศรีทอง
(ศรีอุบลรัตนารา? วัดสุทัศน์ ซึ่งเหตุการณ์สำคัญในสมัยนี้คือการเ?าร่วมสงครา?ขับไล่??/span>
4. เจ้าพรหมเทวานุเคราะห์วงศ?(??2409-2425) เจ้าพรหมเทวา (เจ้าหน่อคำ)
เป็นพี่ชายเจ้าจอมมารดา ด้วงคำใน รัชกาลที?4 เจ้าราชวงศ?จำปาศักดิ์
บุตรเจ้าเสือหลานเจ้าอนุวงศ?/span> ในสมัยของท่านได้สร้างวัดไชยมงค?ซึ่งเป็นวัดธรรมยุตที่สี่ ในจังหวัดอุบลราชธานี สิ่งที่พึงสังเกต คื?ความขัดแย้งระหว่าง เจ้าเมืองอุปฮา?ราชวงศ?รุนแรง เนื่องจากฝ่ายเจ้านายอุบล?ไม่พอใจที่ โปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งให?/span> เจ้าหน่อคำเป็นเจ้าเมือ?ในสมัยนั้นจึ?เกิดการทะเลา?วิวาทขัดแย้งกั?/span> กลั่นแกล้งกันอยู่เสม?ท้ายที่สุด ราวป???2412 เกิดกรณี เมืองไซแ?/span> ได้เกิดความบาดหมาง
ทวีความรุนแร?ต่างฝ่ายต่างเกล่าโทษ ซึ่งกั?และกัน เจ้าพรหม กล่าวหาว่า อุปฮาด ราชวงศ?ราชบุต?ขัดขวางไม่ให้เก็บเงินส่ว?จากไพร?/span> ?างฝ่ายอุปฮาด ราชวงศ?ราชบุต?ก็กล่าวหาว่า เจ้าพรหม
ฉ้อราษ?์บังหลวง ทั้งสองฝ่ายจึงลงมา สู้ความกันที่กรุงเทพ?จนพากันถึงแก่อสั?รร?/span> ต่างฝ่ายต่างสู?สียทรัพย์สินส่วนตัวเป็นจำนวนมา??? 2418 เกิดศึกฮ่อ เจ้าพรหมเทวาถูกเกณฑ์ไปราชการทัพฮ่อ หลังศึกฮ่อได้อัญเชิญพระพุทธรูป 2 องค์ คื?/span> พระทองทิพย?และพระทอ?ประดิษฐา?ที่วัดศรีทอง และวัดไชยมงค?/span>
?? 2422 กราบบังคมทูลขอตั้งบ้านท่ายักขุ เป็นเมืองชานุมานมณฑล บ้านพระเหล?เป็นเมืองพนานิคม ให้เมืองทั้งสอ?ขึ้นกับเมือง อุบลราชธาน?/span>
การแต่งตั้งเจ้าเมืองสมัยโบรา?/span>
พบหลักฐา?เอกสารการแต่งตั้งเจ้าเมือง องค์ที?3 คื?พระพรหมราชวงศา (กุทอ? กล่าวถึงเครื่องย?ที่ทางกรุงเทพฯ พระราชทานแก่ เจ้าเมืองอุบลฯ
ประกอบด้วย
พานถมเครื่องในทองค?1 สำรั?คนโททองค?1 ใบ กระโถนถม 1 ใบ ลูกประคำทองค?1 สา?กระบี่บั้งถม 1 อั?เสื้อหมวกตุ้มป?1 ชุ?สัปทนปัสตู 1 ชุ?/span> ปืนคาบศิลาคอลา?1 กระบอก เสื้อเ?มขาบริ้วเลื้อย
1 ตั?ส่านไทยปักทอ?1 ชุ?ผ้าป?/span> 1 ผื?/span>
มีพระบรมราชโองกา?ให้เจ้าเมืองปกครองราษฎ?/span> ด้วยความร่มเย็นเป็นสุข
ดังความว่า "...ให้โอบอ้อมอารีต่ออาณาประชาราษฎร์ อย่าเบียดเบียน ?มเหงไพร่บ้านพลเมือ?ปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม
ทำนุบำรุงพระสง? สามเณรให้ป?บัติเล่าเรืยนคันถธุร?วิปัสสนาธุระ
กำชั?กำชาไพร่บ้านพลเมือ?/span> อย่าให้สูบฝิ่น ซื้อฝิ่น
กินฝิ่?ให้กระทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาปีละ 2 ครั้?.."